พันธุ์กาแฟ ในโลกนี้มีกาแฟมากมายหลากพันธุ์หลายชนิด แต่ที่รู้จักกันโดยทั่วไปจะมีอยู่ 4 พันธุ์ คือ
1. กาแฟอราบิก้า (Arabica)
2. กาแฟโรบัสต้า (Robusta)
3. กาแฟเอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa)
4. กาแฟลิเบอริก้า (Liberica)
แต่กาแฟพันธุ์ ลิเบอริก้าและเอ็กซ์เซลซ่า ไม่นิยมปลูกเพื่อการค้าเนื่องจากรสชาติไม่ค่อยดีนัก ส่วนพันธุ์ที่นิยมปลูกเพื่อการค้าและมีขายกันโดยทั่วไปมีอยู่ 2 พันธุ์คือ อราบิก้า และโรบัสต้า
กาแฟอราบิก้า(Arabica)
เป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกและบริโภคกันมากที่สุดในโลกมีปริมาณการผลิตถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในตลาดกาแฟโลก แต่จะมีจำนวนเพียง 1ใน 8เท่านั้นที่เป็นกาแฟที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่นิยม กาแฟชนิดนี้ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณสารกาแฟชั้นดี มีกลิ่นและรสชาติดีที่สุด
เมล็ดกาแฟพันธุ์อราบิก้านี้จะมีรูปทรงค่อนข้างเรียวผอม รอยผ่าไส้กลางมีลักษณะคล้ายตัว S เมื่อผ่านกระบวนการผลิตแล้ว กาแฟพันธุ์นี้จะมีกลิ่นหอมหวานอบอวล ซับซ้อน คล้ายกลิ่นช๊อกโกแลตและดอกไม้ รสชาตินุ่มละมุน มีปริมาณคาเฟอีน ประมาณ 1.1-1.7 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณครึ่งหนึ่งของพันธุ์โรบัสต้าในสัดส่วนเท่ากัน
กาแฟอราบิก้าชอบความเย็น เจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีในพื้นที่ที่มีระดับความสูงตั้งแต่ 800-2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สำหรับในประเทศไทยนิยมปลูกในเขตพื้นที่ทางภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน แม่ฮ่องสอน ลำปาง สายพันธุ์ที่นิยมปลูกมากคือ สายพันธุ์ คาร์ติมอร์ อราบิก้าในประเทศไทยสามารถให้ผลผลิตได้ประมาณ 10,000 ตันต่อปี
กาแฟโรบัสต้า(Robusta)
เป็นกาแฟพันธุ์ที่ต้องการความชุ่มชื้นสูง ปลูกง่ายให้ปริมาณผลผลิตมาก นิยมปลูกกันมากในทวีปอัฟริกาและเอเชีย สามารถปลูกในพื้นที่ที่มีระดับความสูงตั้งแต่ 500-600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สำหรับประเทศไทยนิยมปลูกกันทางภาคใต้ เช่นที่จังหวัดชุมพร,สุราษฏร์ธานี,นครศรีธรรมราช
เมล็ดพันธุ์ของโรบัสต้าจะอวบอ้วน ด้านหลังมีลักษณะนูนเป็นหลังเต่า รอยผ่าไส้กลางเมล็ดจะเป็นเส้นค่อนข้างตรง กาแฟสายพันธุ์นี้ กลิ่นไม่หอมหวานอบอวล ไม่ซับซ้อน รสชาติฝาดกว่าพันธุ์อราบิก้า และมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่า 1-2 เท่าตัวหรือประมาณ 2-4.5 เปอร์เซ็นต์
ถึงแม้ว่าจะให้รสชาติด้อยกว่า มีรสฝาดมากกว่า แต่body (ความเข้มข้น) ของกาแฟพันธุ์นี้จะมีมากกว่า สามารถรับรู้ได้เวลาดื่ม ส่วนใหญ่จะนำมาผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูป หรือนำมาผสมกับกาแฟพันธุ์ อราบิก้า เพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่างออกไป กาแฟRobustaในประเทศไทยสามารถให้ผลผลิตได้ประมาณปีละ 70,000ตันต่อปี
ถิ่นที่ปลูกกาแฟ
พื้นดินและสภาพแวดล้อมในที่ต่างๆกันมีผลทำให้กาแฟจากส่วนต่างๆของโลกมีรสชาติต่างกันออกไป เราสามารถแบ่งเขตการปลูกกาแฟในที่ต่างๆของโลกได้ 5 บริเวณดังนี้
อัฟริกา ได้แก่ เอธิโอเปีย เคนย่า เยเมน และไอเวรี่โคสต์
ลาตินอเมริกาและคาบสมุทรคาริเบี้ยน ได้แก่ คอสตาริก้า กัวเตมาลา จาไมก้า
อเมริกาใต้ ได้แก่ บราซิล โคลัมเบีย เปรู เวเนซูเอล่า
เอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินเดีย จีน พม่า ลาว เวียดนาม ไทย และ อินโดนิเซีย
ถึงตอนนี้ เพื่อนคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับเมล็ดกาแฟมากขึ้นนะคะ ส่วนชื่อเมนูต่างๆที่กล่าวไปตอนต้นนั้น อยู่ที่สัดส่วน วัตถุดิบ ต่างๆ ที่จะนำมาปรุงลงไป เพื่อให้เกิดเป็นเมนูต่างๆครับ ซึี่งเคยแบ่งปันไว้แล้วคราวก่อน ลองเปิดอ่านดูได้ครับ ^_^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น